Maldives Dreamland - Into the Blue

คืนแรกที่มัลดีฟส์ มีคลื่นลมโหมพัดใส่บังกะโลเสียงดังสนั่น จนแอบกลัวว่ามันจะถล่มไหมเนี่ย แล้วถ้าอีกวันสภาพอากาศยังเป็นแบบนี้อยู่ ทริปดำน้ำชมแมนต้าจะโดนยกเลิกไหมหว่า

Day 2 - 21 Jul 2022 

สิ่งแรกที่ทำหลังจากตื่นนอน คือออกไปดูท้องฟ้าก่อนเลย ปรากฏว่าฝนหยุดตกแล้ววว เย่!!

ถึงเมฆจะยังเยอะอยู่ แต่ก็เริ่มเผยสีสันของท้องฟ้าให้เห็นบ้าง ทำให้ใจชื้นขึ้นพอสมควร

ช่วงสายเริ่มมีแดดส่องมาจนสัมผัสถึงความร้อนได้

เพิ่งเคยรู้สึกดีใจที่ได้ตากแดดก็คราวนี้แหละ 55

เอาล่ะ วันนี้จะต้องออกเรือไปตามล่าแมนต้าซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของทริปนี้ ฉะนั้น ต้องมีการเตรียมความพร้อมกันหน่อย

เริ่มจากทานอาหารเช้าแค่พออิ่ม เดินย่อยสักนิด แล้วมาซ้อมดำสน็อคเกิลรอบๆ ที่พัก

เคยมีคนบอกว่าโลกใต้ทะเลที่มัลดีฟส์ใสเคลียร์เหมือนกระจก แต่พอมาดำจริงค่อนข้างขุ่นนะ อาจเป็นเพราะเป็นหน้ามรสุม

แต่ปลาเล็กปลาน้อยเยอะแยะละลานตาไปหมดเชียวล่ะ

จะบอกว่าก่อนมาทริปนี้ แอบซุ่มไปเรียน Freediving มาด้วย กะว่าจะถอดชูชีพดำผุดดำว่ายอย่างอิสระเสรีกันไปเลย

หลังจากซ้อมจนเริ่มมีความมั่นใจ ก็ขึ้นมาพักฟื้นเตรียมเจอของจริง

ช่วงสายๆ และบ่ายๆ สามารถแวะมาสั่งของว่างกินที่บาร์ได้ แต่สั่งมาแล้วแอบให้เยอะกว่าที่คิด เลยไม่กล้ากินหมดกลัวจะจุกจนดำน้ำไม่ไหว ส่วนมื้อเที่ยงก็ตักมากินแค่คนละนิดละหน่อยให้พออยู่ท้อง

และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย ก่อนออกเรือเจ้าหน้าที่จะมาอธิบายถึงขั้นตอนและข้อพึงระวังต่างๆ

หลักๆ เลยคือต้องไม่ไปรบกวนแมนต้าให้ตกใจ และห้ามมือบอนไปจับไปลูบแมนต้าเด็ดขาดเพราะจะทำให้เมือกที่เคลือบผิวของแมนต้าหลุดออกจนอาจทำให้มันป่วยหรือตายได้ ถ้าใครฝ่าฝืนจะโดนค่าปรับมิใช่น้อยๆ เลยล่ะ (แต่ถ้าแมนต้าว่ายมาโดนเราเองอันนั้นเขาอนุโลมให้)

ออกเรือได้! ท่าขับเรือของกัปตันอย่างโปรอ่ะ

ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงอ่าวฮานิฟารู ก่อนมาจินตนาการว่าจะเห็นเป็นรูปอ่าวชัดเจน แบบสวยๆ น้ำใสๆ แต่มาเจอของจริง เฮ้ย นี่มันกลางทะเลชัดๆ

ก้มหน้าลงไป เห็นแต่ความเวิ้งว้าง นี่ตรูมาทำอะไรตรงนี้!!

เริ่มมีฝูงปลามาให้เห็นบ้าง 

ท่ามกลางเกลียวคลื่นที่คอยซัดโหมให้ร่างลอยตุปัดตุเป๋ อาบังที่เป็นไกด์ก็คอยส่งเสียงตะโกนเรียกตลอดให้ "ตามอีนี่มาๆ"

ลำพังแค่ว่ายตามอาบังให้ทันก็ทุลักทุเลจะแย่ ไอ้ที่วาดฝันจะถอดชูชีพดำผุดดำว่ายแบบฟรีไดเวอร์นั่นลืมไปได้เลย นาทีนี้ขอเกาะชูชีพไว้สุดชีวิต

ในขณะที่ความหวังจะได้เห็นแมนต้าเริ่มริบหรี่ สักพักอาบังก้มมองไปในความเวิ้งว้างแล้วเงยหน้าขึ้นมาตะโกนบอกว่า "แมนต้าๆ!!"

ไอ้เราก็รีบก้มมองตาม แต่ก็ยังเห็นแต่ความเวิ้งว้างเหมือนเดิม ไหนหว่าแมนต้า?? 

แต่พอสังเกตดีๆ ก็เริ่มเห็นวัตถุบางอย่างลอยเป็นเงาดำๆ อยู่เบื้องล่าง นั่นน่ะนะ แมนต้า!!?? ใจคอจะให้เห็นเป็นเงาดำๆ แค่นี้จริงอ่ะ!!?? แบบนี้ไปดูที่พิพิธภัณฑ์ดีกว่าไหม!!?? (บ่นอุบอยู่ในใจแบบมนุษย์ลุงป้า)

ราวกับจะรำคาญเสียงบ่นในใจของเรา เจ้าแมนต้าเริ่มทะยานตัวมาใกล้ผิวน้ำ ว้าวว!!

โชคดีที่แขกคนอื่นไม่ค่อยเชื่อฟังอาบัง เลยมีแค่เราที่ว่ายตามอาบังแบบติดๆ จึงมีจังหวะได้จับภาพแมนต้าแบบไม่มีใครมาบังเฟรม 

สองตัวก็มาาา!!

แต่พอรู้ว่าอาบังเจอแมนต้า ก็พากันยกโขยงมารุมทึ้งแย่งมุมถ่ายภาพกันใหญ่

 

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ภาพแมนต้าอยู่ในเฟรมเดี่ยวๆ อีกต่อไป 55

ว่ายตามอาบัง เอ๊ย ว่ายชมแมนต้า ได้ประมาณ 30-40 นาที ก็ต้องเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ไปขึ้นเรือกลับที่พัก เพื่อสับเปลี่ยนให้กรุ๊ปอื่นเขาได้มาชมกันบ้าง (เข้าพร้อมกันหลายกรุ๊ปเกินไปไม่ได้ เพราะเขามีการจำกัดไว้ ไม่ให้รบกวนสัตว์น้ำมากเกินไป)

กลับถึงที่พักก็หมดสภาพจนไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแล้ว จึงต้องตัดจบโปรแกรมวันนี้ไปโดยปริยาย แหะๆ 

ถึงจะไม่ได้เห็นแมนต้ามารวมกันเป็นสิบๆ ตัวอย่างที่วาดฝันไว้ แถมภาพที่ได้ก็ไม่ได้คมชัดนัก แต่อย่างน้อยก็ถือว่าได้บรรลุเป้าหมายในทริปนี้แล้ว เย่!